
รวม 10ไอเท็ม เครื่องสำอาง ที่ มือใหม่หัดแต่งหน้า ต้องมี!
ใครที่กำลังอยากหัดแต่งหน้า กำลังมองหา เครื่องสำอาง หรือเห็นเหล่า บิวตี้บล็อคเกอร์ แต่งหน้าออกมาแล้วดูสวย แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มซื้อไอเท็มไหนก่อนดี เพราะไอเท็มเครื่องสำอาง บอกเลยว่ามีมากมายจนตาลายไปหมด วันนี้ LUNGYOONNS ลุงยูรครีเอทีฟ เลยอยากมาแนะนำ 10 ไอเท็มเครื่องสำอาง ที่ มือใหม่หัดแต่งหน้า ต้องมี! แบบละเอียดยิบ ตามไปตำกันเลยจ้า
1.รองพื้น

รองพื้นถือเป็นไอเท็ม เครื่องสำอาง ชิ้นแรกๆ ที่ใครกำลังหัดแต่งหน้าต้องมี การเลือกรองพื้นควรเลือกจากลักษณะดังนี้
สีผิว : การเทสสีรองพื้นกับผิวจริงควรเทสกับผิวบริเวณสันกราม เพื่อให้ได้สีที่ตรงและไม่ลอย
ลักษณะของผิว : หากเป็นคนที่ผิวมัน ควรเลือกรองพื้นสูตรควบคุมความมัน ส่วนผิวหน้าที่แห้ง ควรเลือกรองพื้นที่มีความชุ่มชื้น ลดความแห้งของผิวและไม่ทำให้ผิวลอกเป็นขุยนั่นเอง
เลือกตามการใช้งาน : รองพื้นมีให้เลือกทั้งแบบโชว์งานผิว หรือแม้แต่สูตรปกปิด หากคุณไม่ได้ต้องการการปกปิดมากมาย ก็ควรเลือกสูตรที่บางเบาเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ลุคการแต่งหน้าของคุณดูไม่หนักเกินไป
เลือกตามอันเดอร์โทนผิว : ทราบกันไหมคะว่า อันเดอร์โทนผิวของแต่ละคนก็มีความสำคัญในการเลือกสีรองพื้น โดยสามารถสังเกตได้ที่เส้นเลือดบริเวณข้อมือนั่นเองค่ะ สามารถดูได้ดังนี้
- เส้นเลือดสีม่วง/น้ำเงิน = ผิวโทนชมพู
- เส้นเลือดสีเขียว/น้ำเงิน = ผิวโทนกลาง
- เส้นเลือดสีเขียวเข้ม/ขี้ม้า = ผิวเหลือง
2.แป้งพัฟ

หลายๆคนที่เคยใช้แป้งพัฟ เชื่อว่าอาจจะต้องเคยเจอกับปัญหาแป้งดรอป ทาแล้วหน้าหมอง หรือไปหมองในระหว่างวัน แม้กระทั่งแป้งที่เป็นคราบ วิธีการเลือกแป้งพัฟที่ถูกต้องมีดังนี้
เลือกตามอันเดอร์โทนผิว : นอกจากรองพื้นที่ต้องอิงตามสีอันเดอร์โทนแล้ว สีของแป้งพัฟก็ต้องเลือกตามสีเส้นเลือดของเราเช่นเดียวกัน
- เส้นเลือดสีม่วง/น้ำเงิน = ผิวโทนชมพู
- เส้นเลือดสีเขียว/น้ำเงิน = ผิวโทนกลาง
- เส้นเลือดสีเขียวเข้ม/ขี้ม้า = ผิวเหลือง
เลือกจากลักษณะของผิว : ถ้ามีผิวที่แห้ง ควรเลือกแป้งพัฟที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น หากหน้ามันควรเลือกแป้งพัฟที่ช่วยควบคุมความมัน
เลือกตามการปกปิด : หากสาวๆต้องการลุคที่ปกปิดมาก อาจเลือกแป้งพัฟที่ผสมรองพื้น แต่ถ้าเพียงต้องการแค่ลดความมันหรือเซ็ทเครื่องสำอางหลังแต่งนิดหน่อย สามารถเลือกใช้แป้งพัฟแบบโปร่งแสงแทนก็ได้เช่นกัน
เช็คสีผิวบริเวณสันกราม : นอกจากการเช็ครองพื้นที่บริเวณสันกรามแล้ว การเช็คสีของแป้งก็จำเป็นต้องทดลองบริเวณสันกรามเช่นเดียวกัน
3.อายแชโดว์

อายแชโดว์เป็นไอเท็ม เครื่องสำอาง ที่จะช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่น น่ามอง ช่วยปรับลักษณะรูปตาให้สวยงาม วิธีการเลือกอายชาโดว์มีดังนี้
เลือกสีตามการใช้งานจริง : หากคุณเป็นคนที่ชอบการแต่งหน้าในลุคธรรมชาติ ก็ควรเลือกพาเลทอายแชโดว์ ที่มีสีธรรมชาติ โทนน้ำตาล ส้ม หรือชมพู เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานจริง แต่ถ้าคุณชื่นชอบในการแต่งหน้าสีสันฉูดฉาด ก็ควรเลือกพาเลทอายแชโดว์สีสดใสนั่นเอง
เลือกจากความแน่นของเม็ดสี : อายแชโดว์บางยี่ห้อที่เค้าบอกว่าดี บอกเลยว่า ต้องไปลองใช้กันเอง บางยี่ห้อมีราคาที่สูง แต่เม็ดสีไม่แน่น ต้องจุ่มปาดกันหลายรอบ แต่กับบางแบรนด์ที่มีราคากลางๆมักให้สีที่เข้ม และคมชัดมากกว่า
เลือกสีหลักๆเพียงแค่ 3 โทนสี : ตามการใช้งานจริงๆที่ควรเลือก ในพาเลทนั้นๆ ควรมีสีโทนเข้ม ในการคัดเบ้า หรือปกปิดส่วนที่ต้องการให้แคบลง เช่นถ้าหากระหว่างดวงตามีพื้นที่เยอะ ก็ควรลงสีโทนเข้ม เพื่อพรางให้ช่วงตาดูแคบลง/ สีโทนกลาง ทำให้สีโทนเข้มและโทนอ่อนกลืนผสมกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ / และสีโทนอ่อน ใช้เพื่อเน้นจุดบนดวงตาให้เด่นขึ้น
4.อายไลน์เนอร์

อายไลน์เนอร์ เป็นไอเท็มที่จะช่วยเพิ่มมิติ และเพิ่มความโดดเด่นให้กับดวงตาได้ง่ายๆ โดยสามารถเลือกใช้อายไลน์เนอร์ได้ดังนี้
อายไลน์เนอร์แบบน้ำ : เหมาะกับคนที่มีความชำนาญในระดับหนึ่ง หรือสาวๆที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้า อาจติดอายไลน์เนอร์แบบน้ำไว้เขียนทับแบบอื่นๆ เพื่อความติดทนก็ได้เช่นกัน
อายไลน์เนอร์แบบดินสอ:เป็นประเภทที่ใช้เขียนง่ายที่สุด แต่ความติดทนจะสู้แบบอื่นๆไม่ได้ หลังจากใช้อายไลน์เนอร์แบบดินสอแล้ว อาจเลือกทาอายไลน์เนอร์แบบน้ำ หรือแบบเจลทับอีกชั้นเพื่อความติดทนก็ได้ หรืออาจพกอายไลน์เนอร์แบบดินสอไว้ใช้เขียนขอบตาล่างก็ได้เช่นกัน
อายไลน์เนอร์แบบเจล: เหมาะกับคนที่ไม่ชอบลุคที่ดูเข้มเกินไป เพราะอายไลน์เนอร์แบบเจลจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่จะมีราคาสูงที่สุดในรูปแบบอายไลน์เนอร์ทั้งหมด
อายไลน์เนอร์แบบฝุ่น : เป็นอายไลน์เนอร์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่ถ้ามีติดไว้ สามารถลงทับอายไลน์เนอร์ประเภทต่างๆ เพื่อย้ำให้ติดทนนานมากขึ้น โดยเฉพาะสาวๆที่ผิวมัน การใช้อายไลน์เนอร์แบบฝุ่นลงย้ำอีกครั้งจะช่วยได้ดี
เลือกตามสูตร : ปัจจุบันอายไลน์เนอร์มีออกมาด้วยกันหลายสูตร ซึ่งมีทั้งแบบฟิล์ม ที่ติดทนนาน การเลือกก็ควรเลือกแบบที่ติดทน และสามารถล้างออกได้ง่าย เพื่อสุขอนามัยที่ดี หากใช้อายไลน์เนอร์ที่ติดทนจนไม่สามารถล้างออกได้ง่าย อาจเกิดปัญหาตกค้างบนผิว หรือส่งผลให้ใต้ต้าคล้ำเหี่ยวเร็วกว่าปกติ
5.ที่เขียนคิ้ว

ที่เขียนคิ้ว ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ออกมาให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบเจล แบบฝุ่น แบบดินสอ โดยควรเลือกตามการใช้งานดังนี้
ที่เขียนคิ้วแบบดินสอ : เป็นที่เขียนคิ้วราคาถูก มีราคาตั้งแต่แท่งละ 10 บาท ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่มีหางคิ้ว และอยากได้ลุคคิ้วสายฝ.
ที่เขียนคิ้วแบบเจล : เป็นที่เขียนคิ้วที่มีความติดทนสูง แต่ต้องการความชำนาญในการเขียนพอสมควร
ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น : ควรมีติดไว้ เพราะสามารถใช้ได้กับทุกลุค สำหรับใครที่ไม่อยากได้คิ้วที่ดูดุเกินไป ก็สามารถเลือกใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นได้เลย ส่วนใครที่มีผิวหน้ามัน ควรมีที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นไว้ลงทับที่คิ้ว เพิ่มความติดทนนั่นเอง
เลือกสีที่เขียนคิ้วอย่างไร?
ใครที่อยากให้ลุคของคุณดูเบา ดูเด็ก และเป็นธรรมชาติ ควรเลือกสีที่อ่อนกว่าสีผม เช่น สีเทา ในกรณีที่ผมดำ / สีน้ำตาลอ่อน กรณีที่ผมสีน้ำตาลเข้ม ไม่ควรเลือกสีคิ้วที่หลุดจากเฉดสีผม เพราะอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ใครที่ต้องการลุคที่โอบเฉี่ยว สามารถเลือกสีคิ้วได้ตามต้องการ เช่นสีดำ หรือเลือกแบบโทนไล่สี จากหางคิ้วสีเข้ม ไล่ลงมาอ่อนเรื่อยๆไปจนถึงหัวคิ้ว
6.ลิปสติก/ลิปกลอส

การเลือกลิปสติก หรือลิปกลอส สามารถเลือกได้ดังนี้
เลือกตามการบำรุง : ลิปบางสูตร มีการใส่สารบำรุงริมฝีปาก รวมถึงสารกันเเดดที่จะช่วยป้องกันความหมองคล้ำ และมลภาวะได้
เลือกตามโทนสีที่ใช้ : หากใช้แต่งในชีวิตประจำวัน หรืองานพิธีที่มีความเป็นทางการสูง ควรเลือกสีที่ดูธรรมชาติ อย่างสีชมพูกลีบบัว ,สีส้มอิฐ หรือสีนู้ด แต่ถ้าต้องการเพิ่มลุคให้ดูจัดขึ้น อย่างงานปาร์ตี้ ก็สามารถเลือกสีลิปสติกได้ตามที่ใจต้องการ
เลือกจากความติดทนและเม็ดสี : การเลือกลิปสติกควรเลือกแบบที่เม็ดสีเข้ม คมชัด ไม่ต้องย้ำลงบนฝีปากหลายรอบ และควรติดทนแม้ผ่านการทานอาหาร
เคล็ดลับการทาลิปสติกให้สวย : ก่อนเข้านอนควรทาลิปมัน หรือปิโตรเลียมเจลทิ้งไว้ ทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม และทาลิปได้ลื่นสวยไม่ตกร่อง
7.บลัชออน

บลัชออน เป็นไอเท็มที่จะช่วยเพิ่มความสดใสให้แก้มของคุณ การเลือกใช้บลัชออน ควรเลือกสีที่ใช้บ่อย อย่างสีส้มพีช สีชมพู หรือมะเหมี่ยว โดยสามารถเลือกได้ดังนี้
บลัชออนแบบฝุ่น : เหมาะกับคนที่ผิวหน้ามัน และเป็นบลัชออนแบบที่ราคาถูกที่สุด แต่มีข้อเสียคือไม่ติดทนนาน
บลัชออนแบบเนื้อครีม : บลัชออนแบบนี้จะมีความติดทนนาน แต่หากไม่ชำนาญและเกลี่ยไม่เป็นจะทำให้ผิวดูเป็นปื้นได้
บลัชออนแบบน้ำ : เป็นบลัชออนอีกแบบที่ให้ความติดทน เวลาเลือกควรเลือกแบบที่เกลี่ยง่ายและไม่เป็นก้อน
หรือถ้าใครไม่อยากซื้อบลัชออน สามารถใช้ลิปสติกสีที่ชอบ ลงแทนบลัชออนได้เลย
8.มาสคาร่า /ขนตาปลอม

นอกจากการกรีดอายไลน์เนอร์ที่จะช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่นเเล้ว การปัดมาสคาร่า หรือติดขนตาปลอมก็จะช่วยให้ลุคขอองคุณเด้งขึ้นไปอีก โดยสามารถเลือกได้ดังนี้
การเลือกมาสคาร่า : ควรเลือกแบบที่ไม่ทำให้ใต้ตาเป็นแพนด้าระหว่างวัน โดยเฉพาะคนที่มีผิวหน้ามัน ควรเลือกสูตรที่ช่วยกันน้ำ และกันเหงื่อเป็นพิเศษ รวมถึงควรดูสูตรที่ช่วยเพิ่มความหนาและความยาวของขนตาแบบไม่เป็นก้อน
การเลือกรูปแบบมาสคาร่า : ดูจากหัวแปรง ที่มีปลายขนาดเล็ก จะช่วยให้ปัดขนตาได้เข้าถึงทุกจุดของดวงตา
การเลือกขนตาปลอม : ควรเลือกขนตาปลอมที่แกนนิ่ม และทรงสวยเป็นธรรมชาติ จะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะใส่
เคล็ดลับการเลือกกาวติดขนตา : ควรเลือกกาวติดขนตาที่มีคุณภาพ อาจเลือกใช้กาวสีดำ เพื่อความเนียน
9.แปรงแต่งหน้า

ใครว่าแปรงแต่งหน้าไม่สำคัญ? ขอบอกเลยว่า การลงทุนซื้อแปรงแต่งหน้าดีๆซักชุด จะทำให้การแต่งหน้าของคุณสะดวกสบาย และง่ายขึ้นมาก โดยอาจเลือกแปรง ชุด 8 ชิ้น หรือ 12 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีลักษณะการใช้ที่แตกต่างกันไป
เทคนิคการเลือกแปรงแต่งหน้า : ควรเลือกแปรงแต่งหน้าขนนุ่ม จะทำให้สามารถแต่งหน้าได้เนียน และไม่ระคายเคืองผิว
เทคนิคการทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า : ใช้น้ำยาสำหรับแปรงแต่งหน้าโดยเฉพาะ หรือใช้สบู่เด็ก ล้างโดยเปิดน้ำจากก๊อกทิ้งไว้ แล้วล้างทีละชิ้น โดยใช้วิธีกดหัวแปรงลง แล้วบีบน้ำยาลงไป เเล้วใช้มือขยี้เบาๆบริเวณขนแปรง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด / ส่วนการผึ่ง ควรวางบนผ้าสะอาด แล้วผึ่งลมให้แห้ง วางไว้ในที่ๆมีอากาศถ่ายเท
10.ไฮไลท์/คอนทัวร์

ไฮไลท์และคอนทัวร์ เป็นไอเท็มที่จะช่วยให้โครงหน้าชัด กลบจุดด้อย เน้นจุดเด่นบนใบหน้าได้อย่างดี โดยมี 3 เฉดที่ควรเลือกใช้ ดังนี้
เฉดสว่างกว่าผิว : เป็นเฉดที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูโดดเด่น ส่วนนี้จะใช้เป็นสีโทนที่สว่างกว่าผิว เป็นแบบเนื้อแมทท์ ใช้ไฮไลท์ส่วนโหนกแก้ม บริเวณกรามบน และหน้าผาก
เฉดสีเข้มกว่าผิว : ตัวคอนทัวร์ จะช่วยกลบจุดบนใบหน้า ที่เราไม่อยากโชว์ได้ โดยลงบริเวณกรอบหน้าทั้งหมด รวมถึงสันจมูก
เฉดสว่างแบบมีกลิตเตอร์ : ไฮไลท์แบบมีกลิตเตอร์ มีไว้สำหรับเน้นจุดพิเศษ ที่ทำให้หน้าพุ่ง โดยลงบริเวณเหนือริมฝีปากบน ปลายจมูก และโหนกแก้ม
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่
กดติดตามเราได้ ที่นี่

